Tobata Gion Oyamagasa

::: JAPAN UPDATE : 2016-10-04 10:05:20

Tobata Gion Oyamagasa
戸畑祇園大山笠




เทศกาลหน้าร้อนที่ใหญ่ที่สุดของเมือง Tobata จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ของสัปดาห์ที่ 4 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีประวัติศาสตร์ความเป็นมากว่า 200 ปี และ1 ใน 3 ของเทศกาลที่สำคัญที่สุดในจังหวัด Fukuoka ที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดให้เป็นประเพณีสำคัญและเป็นวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีคุณค่าประเมิณไม่ได้ โดยเทศกาลนี้นะคะจะจัดขึ้นที่ศาลเจ้า Tobihata Hachimangu ศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ของเมืองค่ะ 



และก่อนจะเริ่มเทศกาลอย่างเป็นทางการนะคะ ทุกคนที่เข้าร่วมจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้จากนั้นตัวแทนในแต่ละพื้นที่ 4 เขตคือ Higashi, Nishi, Nakabaru และ Tenraiji จะต้องเข้าไปทำพิธีรับเทพเจ้าเพื่อเชิญมายัง Oyamagasa ที่คล้ายกับเสรี่ยงของบ้านเรา แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก และมีการตกแต่งด้วยธงที่เรียกว่า Nobori Oyamagasa พู่เงินพู่ทอง และประดับประดาด้วยผ้าที่ปักลวดลายสัญลักษณ์ของแต่ละพื้นอย่างปราณีตรอบๆ Oyamagasa ดูแล้วสวยงาม ยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ เมื่อแต่ละเขตรับเทพของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเริ่มแห่ Oyamagasa  เพื่อขอเก็บบริจาครอบๆเมืองในเขตพื้นที่ของตัวเองค่ะ  



งานช่วงเย็นจะเริ่มจากกล่าวเปิดงานเสร็จ สิ้นเสียงกลองบนเวที ก็เป็นการเริ่มแห่ Oyamagasa ของ 4 พื้นที่ทั้งคานหามแบบของผู้ใหญ่และเด็ก โดยจะแห่ไปรอบๆ ถนนหน้าสำนักงานเขตเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะเริ่มแข่งจริง ซึ่งผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมแห่นั้นจะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงอย่างเราทำได้แค่เพียงยืนมองและเชียร์อยู่ห่างๆ ห้ามแม้แต่จะเข้าไปในสถานที่ทำพิธี จุดรวมพล หรือแม้กระทั้งห้ามจับ Yamagasa เป็นอันขาด ซึ่งเป็นความเชื่อที่ว่าผู้หญิงจะทำให้เกิดมลทินนั่นเองค่ะ




ช่วงไฮไลท์ของงานเทศกาล Tobata Gion Oyamagasa ที่ทุกคนต่างรอคอยนะคะ ซึ่งช่วงนี้แต่ละทีมจะนำ nobori oyamagasa และเครื่องตกแต่งออก จากนั้นจะรีบช่วยกันประกอบให้เป็นรูปทรงพีระมิดที่เรียกว่า ChochinOyamagasa  提灯大山笠หรือพีระมิดโคมไฟกระดาษมีด้วยกัน 12 ชั้นสูงประมาณ 10 เมตรใช้โคมไฟกว่า 309 อัน รวมทั้งหมดหนักราวๆ 2.5 ตัน ใช้คนแบกประมาณ 80 คนเลยทีเดียว ซึ่งการประกอบ Chochin Oyamagasa นี้นะคะ ก็เป็น 1 การแข่งขันที่ต้องใช้ทั้งทักษะความชำนาญ ความเร็ว และความพร้อมของทีมเป็นอย่างมากถึงจะชนะเหมือนอย่างทีมฮิโระซังนี่แหละค่ะ และเมื่อแต่ละทีมประกอบ Chochin Oyamagasa เสร็จ เสียงกลองดังขึ้นอีกครั้งเป็นอันเริ่มการแข่งขันของเทศกาล Tobata Gion Oyamagasa โดยสมบูณร์ การแข่งขันนี้จะเป็นการแห่ Oyamagasa ไปรอบๆเช่นเดิม แต่จะดุดันขึ้น ใช้กำลังมากขึ้น ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแห่จะต้องเป็นผู้ชายที่มีประสบการ์เท่านั้น โดยแต่ละตำแหน่งในขบวนก็มีลำดับขั้นที่ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าใครจะทำตำแหน่งไหนก็ได้ อย่างคนที่สามารถขึ้นไปอยู่บน Oyamagasa ได้นั้นจะเรียกว่า Omikoshi ที่ต้องเป็นผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้น ส่วนตำแหน่งคนหามสามารถบอกได้ถึงประสบการณ์ ยิ่งคนที่อยู่ใกล้ Oyamagasa มากเท่าไหร่ ก็จะเป็นผู้ที่มีประสบการ์มากเท่านั้นค่ะ เมื่อตำแหน่งในขบวนครบที่เหลือก็แค่ใช้ความแข็งแรง ความอดทน ความสามัคคีช่วยกันหามOyamagasa ของทีมเดินหน้าไปเรื่อยๆตามจังหวะตะโกน เสียงกลอง ฉิ่งและฉาบ เมื่อทุกอย่างรวมเป็นหนึ่งการจะชนะคู่ต่อสู้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เป็นเทคนิคที่แต่ละทีมควรจะมีค่ะ ส่วนความสนุก ความตื่นเต้นของการแข่งนี้นะคะจะอยู่ที่ช่วงทีมใดทีมหนึ่งไล่กวด ไล่ต้อนกันขึ้นมาเพื่อที่จะแซง ตรงจุดนี้แหละค่ะอากิบอกเลยว่าอันตรายมาก ชนเป็นชนเลยทีเดียว ซึ่งทุกคนรู้อยู่แก่ใจแต่ก็ไม่มีใครยอมใคร พูดได้เลยนะคะว่าเป็นศึกศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายอย่างแท้จริง เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่มากๆ และสวยงามจริงๆ 




จุดเริ่มต้นของเทศกาลนี้นะคะมาจากการที่ในอดีตเคยเกิดโรคระบาดขึ้นในเมือง ผู้คนเลยมาอธิฐานที่ศาลเจ้า Tobihata Hachimangu แห่งนี้เพื่อขอให้โรคระบาดหมดไปจากหมู่บ้าน เมื่อคำอธิฐานเป็นจริง ชาวบ้านหายจากโรคระบาด จึงจัดงานเทศกาลนี้เพื่อเฉลิมฉลองและขอบคุณเทพเจ้านั่นเองค่ะ การเดินแห่ Oyamagasa นี้นะคะ ยิ่งขบวนแห่มีความพร้อมและเสียงดังมากเท่าไหร่ เชื่อกันว่าเทพเจ้าจะยิ่งดีใจมากเท่านั้นค่ะ 
และจุดประสงค์อีกอย่างของเทศกาลนี้ก็คือ ทำให้คนที่เกิดในเมือง Tobata นี้ แต่อาจจะไปทำงานที่อื่นได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ทำให้คนได้รู้จักกัน สร้างความสนิทสนม สามัคคีให้กับคนในเมืองได้เป็นอย่างดี สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เป็นเมืองที่มีผู้คนน่ารักมากๆอีกเมืองเลยล่ะค่ะ




เมื่อมางานเทศกาลทั้งทีก็อย่าลืมมาเดินโซนขายอาหารและของต่างๆ ส่วนมากของที่นำมาขายก็จะเป็นลักษณ์เฉพาะตามท้องถิ่นนั้นๆ และตามช่วงฤดูกาล อย่างพวกอาหารเสียบไม้ พวกของปิ้งย่าง ของทอด โซบะต่างๆนั่นเองค่ะ นอกจากนี้นะคะก็ยังมีร้านของเล่นเล็กๆน้อยๆ ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ รวมไปถึงร้านยิงปืนอักลมคล้ายๆของบ้านเราก็มีอีกด้วย เป็นโซนที่สร้างสีสันให้กับเทศกาลอีกอย่างนึงเลยก็ว่าได้ค่ะ