JAL International flight and in-flight Wi-Fi service (BKK-HND)

::: JAPAN UPDATE : 2017-01-25 05:01:08

JAL International flight and in-flight Wi-Fi service (BKK-HND)

สวัสดีจ้า วันนี้เราจะมาเล่าถึงการเดินทางไปเยือนภูมิภาคเหนือสุดของญี่ปุ่นอย่างฮอกไกโด ที่เชื่อว่าเป็นจังหวัดที่หลายๆ คนตั้งเป้าหมายว่าอย่างสัมผัสวามหนาวเย็นของที่นี่ไปให้ได้สักครั้งในชีวิต...เราเองก็เช่นกัน
โดยการเดินทางครั้งนี้ทีมงาน Sugoi Japan ไปเพื่อร่วมงาน “Hokkaido Snow Travel Expo 2017 in Sapporo” Powder Snow Hokkaido ระหว่างวันที่ 16-21 มกราคม 2560 ค่ะ
ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนการเดินทางโดยสายการบิน Japan Airlines สายการบินแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ชื่อว่าบินตรงเวลาที่สุดในโลก การเดินทางจะเป็นอย่างไร ตามไปเที่ยวพร้อมๆ กันเล้ย ^^




งั้นก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นการเดินทางไปด้วยกันด้วยการ Check-in ที่หน้า Counter สนามบินสุวรรณภูมิ Row R ซึ่งไฟลท์ที่เราเดินทางคือ JL032 Bangkok(BKK)–Haneda(HND) และจะไปต่อเครื่องภายในประเทศ ไฟลท์ JL529 Haneda(HND)-Sapporo Chitose(SPK) ตรงส่วนนี้ ถ้าใครไม่อยากต่อแถวรอนาน แนะนำให้ทำการเช็กอินผ่านเว็บไซด์มาก่อนได้เหมือนเราที่ http://www.th.jal.com/thl/th/  สะดวก รวดเร็ว แถมประหยัดเวลาได้ดีกว่าเยอะ พอมาถึงเคาท์เตอร์ก็แค่เข้าไปทำเรื่องออก Boarding Pass และโหลดกระเป๋าสัมภาระเท่านั้นเอง พอได้ตั๋ว ทำอะไรเสร็จแล้วก็เดินลุยไปรอที่ gate พร้อมจะออกเดินทางได้เลยจ้ะ



 
เมื่อได้เวลา เราก็เดินขึ้นเครื่องสิจ๊ะ สำหรับไฟลท์ JL032 Bangkok(BKK)–Haneda(HND) นี้เป็นเครื่องบิน Boeing 777-200 ER ที่นั่งในชั้นประหยัด (Economy Class) ที่เรานั่งจะเป็นที่นั่งรุ่น " JAL SKY WIDER " ที่เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น มีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้นและเบาะที่นั่งกว้างขึ้นด้วย (อันนี้ที่นั่งกว้างขึ้นจริง สบายอยู่ 555) แถมจอด้านหน้าก็รู้สึกว่าจะเป็นแบบใหม่กดใช้งานง่าย พร้อมด้วยช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ได้สบายๆ อันนี้ชอบ!




ในส่วนของเรื่องงานบริการบนเครื่องก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อาหารการกิน เครื่องดื่มต่างๆ จัดมาให้แบบ Full Service จริงๆ แถมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็มีคนไทยด้วย อันนี้เลยสบาย คุยง่ายเข้าไปใหญ่ ดูแลดีมากๆ ด้วยน้า (คนไทยด้วยกันเต็มที่จริงๆ) ซึ่งเริ่มแรกที่พี่พนักงานคนสวยนำมาเสิร์ฟก็คือ เครื่องดื่มพร้อมด้วยขนมกรุบกริบกินเล่น ส่วนตัวชอบขนมอันนี้มากๆ นะ กินเพลินขนาดหนังยังไม่เริ่มก็หมดซะเเล้ว 555 แต่หมดแล้วก็ขอเพิ่มได้ เครื่องดื่นก็มีเยอะแยะให้เลือก แต่ที่อยากแนะนำว่าควรจะโดนเลยคือ เมนู Sky Time เครื่องดื่มที่เป็น Signature ของสายการบิน JAL เป็นน้ำกีวี่หอมๆ เปรี้ยวอมหวานนิดๆ ดื่มแล้วสดชื่นใจดี แนะนำเลย





เครื่องดื่มผ่านไป รอเวลาสักพัก ก็จะถึงเวลาอาหารหลัก ซึ่งช่วงที่เราไปนั้นมี 2 เมนูให้เลือกระหว่างข้าวหน้าหมู กับไก่อบซอส(อันนี้จำชื่อไม่ได้แต่น่าจะประมาณนี้) และข้อดีของการบินไฟลท์กลางวันแบบนี้คือ อาหารจะมาเต็มกว่าไฟลท์กลางคืน โดยเค้าจะปิดท้ายอาหารคาวด้วยของหวานอย่าง ไอศกรีม Haagen-Dazs เลิศสุดเลยจ้า มื้อนี้อิ่มเลยหล่ะ




และระหว่างรอการเดินทางเพื่อไปยังญี่ปุ่น มีอีกหนึ่งบริการที่พิเศษสำหรับเที่ยวบินนี้ที่อยากจะแนะนำก็คือ “in-flight Wi-Fi” บริการอินเทอร์เน็ตบนเที่ยวบิน สำหรับคนไหนที่ต้องการใช้งานเพื่อติดต่อธุระต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้ โดยส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนิดหน่อย แต่ไม่แพงค่ะ มีให้เลือกหลายแบบ หลายราคาเลยหล่ะ ยังไงลองดูกันได้ เค้าใช้แล้วก็โออยู่นะ




สำหรับขั้นตอนการใช้งานก็ไม่ยากเลยนะ เริ่มต้นเปิดอุปกรณ์เชื่อมต่อ (Smartphone/Tablet) เป็น Airplane Mode พร้อมทั้งเปิด Wi-Fi จากนั้นทำการ Connect กับ wireless network ชื่อว่า “JapanAirlines” ตามรูปเลยจ้ะ




จากนั้นทำการเข้าสู่เบราว์เซอร์(รูปที่1) เลื่อนลงกด confirm(รูปที่2) เพื่อทำการ Log-in(รูปที่3) 






สำหรับคนที่ใช้ครั้งแรกก็ให้เลื่อนลงมาด้านล่างตรง New User? เพื่อทำการสมัครสมาชิกใหม่ก่อน (Create HotSpot account) (รูปที่4) จากนั้นจะโหลดเปลี่ยนหน้าจอใหม่(รูปที่5) เลื่อนลงมาเรื่อยๆ เพื่อมากรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนตั้งแต่ข้อ 1-3 (รูปที่6-8) และใส่รหัสคูปอง Promotional code การใช้งาน ที่เราซื้อล่วงหน้าผ่านเว็บไซด์ของ JAL เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ (*ใครที่ไม่ได้ซื้อคูปองล่วงหน้ามาเหมือนเค้าก็สามารถเลือกแพ็คเกจราคาได้เลย แล้วทำตามขั้นตอนในการชำระเงินเท่านั้นเอง) 




​อันนี้เราทดลองใช้แพ็คเกจแบบ ตลอดทั้งไฟลท์จนถึงสนามบินฮาเนะดะ เบื้องต้นจะพบปัญหาเล็กน้อยในการสมัครสมาชิกใหม่(Create HotSpot account) ซึ่งเป็นปัญหาในช่วงที่บินเหนือน่านฟ้าบางประเทศเท่านั้น ตรงนี้ก็อาจจะต้องให้เครื่องบินออกสักระยะหนึ่งก่อนนะคะ แล้วถึงค่อยเริ่มทำการเชื่อมต่อ แต่หากติดขัดไม่ได้จริงๆ ก็สามารถสอบถามกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องได้เลย ทุกคนยินดีช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ส่วนเรื่องความเร็วก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยหล่ะ ทางทีมงานสามารถโพสต์รูปใน FB ทักทายแฟนเพจได้ ลอง VDO Call ดูก็ใช้งานได้ค่ะ แต่ระวังเรื่องการส่งเสียงรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นด้วยนะคะ ^​^

ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.jal.co.jp/en/inter/service/wifi/ เดี๋ยวครั้งหน้าจะมาเล่าเรื่องการต่อเครื่องภายในประเทศ (Domestic fight) ไปยังซัปโปโรค่ะ ใครกำลังวางแผนการเดินทาง อดใจรอกันอีกนิดน้า ได้ตามไปเที่ยวด้วยกันแน่นอนจ้า