โปรแกรมเที่ยว Fukushima ช่วง Olympic Games Tokyo 2020

::: JAPAN UPDATE : 2020-02-21 11:16:50



ทริปนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ จ. ฟุคุชิมะให้มากขึ้นกันค่ะ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก อาหาร และกิจกรรมที่เราคัดสรรมาสำหรับคุณๆ ที่กำลังจัดโปรแกรมเที่ยวสำหรับช่วงการแข่งขันเบสบอลและซอฟบอล ในช่วง Olympic Games 2020 ที่จะถึงนี้
ก่อนอื่นเรามาดูสนามกีฬาที่จะใช้ในการแข่งขันเบสบอลกันก่อนเลยค่ะ นั่นก็คือสนาม Fukushima Azuma Baseball Stadium ตั้งอยู่ที่ Azuma Sports Park  

ในการแข่งขันเบสบอลและซอฟบอลครั้งนี้ จ. ฟุคุชิมะจะเป็นเจ้าภาพเปิดเกมเบสบอลและการแข่งขันในวันที่ 29 ก.ค. 2563 รวมถึงเกมซอฟบอลวันที่ 22-23 ก.ค. 2563




เป็นที่รู้กันดีว่า จ. ฟุคุชิมะนั้นโดนภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากอย่างแผ่นดินไหวในเดือนมีนาคม 2554 และแผ่นดินไหวในครั้งนั้นทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่รุนแรง คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย สถานที่หลายแห่งถูกทำลาย และทำให้เกิดการระเบิดของไฮโดรเจนที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์  

แต่ด้วยความร่วมมือกันของหลายๆ ฝ่ายรวมถึงความร่วมแรงร่วมใจของประชากรญี่ปุ่น สถานที่หลายๆ แห่งจึงถูกปรับปรุงและฟื้นตัวอย่างรวดเร็วค่ะ

และที่สำคัญ สนามกีฬาแห่งนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิและเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ด้วยสถานที่ตั้งนั้นอยู่ห่างจากชายฝั่งมาก จึงหมดกังวลได้ค่ะ 

สนามนี้มีความจุได้ 30,000 ที่นั่ง รวมถึงที่นั่งสำหรับผู้ทุพพลภาพ ส่วนพื้นสนามนั้นใช้หญ้าเทียม และได้คิดค้นและออกแบบพื้นสนามให้ซัพพอร์ตเท้าและเข่าของนักกีฬา มีห้องล๊อคเกอร์ ห้องฝึกซ้อมช่วงกลางคืน และห้องน้ำ ซึ่งทุกจุดนั้นได้ถูกคิดค้นให้เหมาะสมกับนักกีฬา และผู้เข้าชมการแข่งขัน และมีการปรับปรุงเตรียมพร้อมเพื่อการแข่งขันในครั้งนี้อย่างสม่ำเสมอเลยล่ะค่ะ






หลังจากประทับใจกับการเตรียมพร้อมด้านสนามกีฬากันไปแล้ว เราก็ไปเยี่ยมชมปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle) หรือ ไอสึ-วากามัตสึ  (Aizu Wakamatsu castle) กันต่อเลยค่ะ
มาชมปราสาทสวยแปลกตาอย่างปราสาทที่มุงด้วยกระเบื้องสีแดงหนึ่งเดียวในญี่ปุ่น และมีประวัติอันแสนภาคภูมิใจของเหล่าซามูไรอย่าง ปราสาทสึรุงะ คุณจะเข้าใจว่าคนญี่ปุ่นนั้น ถึงแม้จะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติหรือสงคราม พวกเขาก็ไม่เคยยอมแพ้เลยล่ะค่ะ




ปราสาทสูง 7 ชั้นถูกสร้างขึ้น และหลังจากนั้นได้พังทลายลงเพราะเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ (ประมาณ400 ปีก่อน) ต่อมาได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่เป็นปราสาทสูง 5 ชั้น

แต่แล้วปราสาทก็ได้ถูกทำลายลงอีกครั้ง เพราะเหตุสงครามโบชิน (Boshin Civil War) หรือการปฏิวัติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการสู้กันระหว่างซามูไรและทหาร นำมาซึ่งการสิ้นสุดการปกครองระบอบโชกุน เมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้ว ต่อมาชาวเมืองได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างปราสาทขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อประมาณ 55 ปีที่แล้วนี้เอง 



ปราสาทหลังนี้ถูกออกแบบมาโดยล้อมลอบด้วยคูน้ำ เจ้าเมืองอาศัยในปราสาท และเหล่าซามูไรจะอาศัยอยู่ในบริเวณคูน้ำ ใกล้ปราสาท ส่วนพวกพ่อค้าจะอาศัยอยู่ด้านนอกคูน้ำ ตามที่เห็นในแผนที่ด้านล่าง




เมื่อเราเดินเข้ามาด้านในปราสาทก็จะมีการบรรยายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของซามูไรในสมัยนั้น และมีการจัดการแสดงเกี่ยวกับวัตถุเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ อย่างเช่น ดาบและชุดเกราะของซามูไร (ถ่ายรูปไม่ได้นะคะ)
เดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดจะเป็นจุดชมวิว เก็บภาพวิวมุมสูงโดยรอบกันรัวๆ ไปเลยค่ะ





เดินออกจากตัวปราสาทจะเป็นห้องชา Rinkaku Teahouse ห้องชาจะอยู่ในบริเวณสวนของปราสาทค่ะ




ที่นี่คุณเสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมการชงชาของญี่ปุ่นได้
ชาจะทานคู่กับขนมโอโจมันจู ขนมจะมีรสหวานมาก ซึ่งพอทานคู่กับชาแล้วจะได้รสชาติที่เข้ากันพอดีเลยล่ะค่ะ




ค่าเข้าชมปราสาท ผู้ใหญ่ราคา 520 เยน (รวมค่าเข้าห้องชา Rinkaku Teahouse)
ผู้ใหญ่ราคา 410 เยน (เฉพาะปราสาท)
เด็ก 150 เยน (อายุ 6-15 ปี รวมค่าห้องชา)
เว็บไซด์: http://www.tsurugajo.com/language/eng/
 
ส่วนกลางวันนี้เราตามไปกินอาหารชื่อดังกระฉ่อนไปทั่วโลกอย่าง Kitakata Ramen ที่ร้าน Genraiken
เรามากันที่เมืองคิตะกะตะ  (Kitakata) เมืองเล็กๆ  ที่มีแต่ร้านราเม็งค่ะ มีมากกว่า 120 ร้านเลยเชียว
เมื่อมาถึงถิ่นราเม็งแล้ว ก็ต้องไปร้านต้นกำเนิดสิคะ
น้ำซุปกระดูกหมูที่ร้าน Genraiken นั้นจะไม่มันมาก น้ำซุปจะเบาๆ สามารถทานเป็นมื้อเช้าได้เลย และใส่หมูชาชู และหน่อไม้ ในราคาแค่ 800 เยนเท่านั้นเอง
และมีเครื่องเคียงเป็นหัวไชเท้าดอง ขิงดอง และเกี้ยวซ่า ราคา 550 เยน (เกี้ยวซ่ากรอบอร่อยมาก)




ที่อยู่ 7745 Ippongiue, Kitakata, Fukushima 966-0849
 
และคืนนี้เราไปพักกันที่โรงแรม Urabandai Grandeco Tokyo Hotel
เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมสำหรับชาวสกีเลยก็ว่าได้ค่ะ ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสกีครบครัน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ Goshikinuma และใช้เวลาเดินแค่ 10 นาทีก็ถึง Grandeco Snow Resort แล้วล่ะค่ะ
ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเลยล่ะค่ะ ที่สำคัญ ทุกห้องมีระเบียงกว้างและยาว สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติป่าเขาที่สวยงามจากเตียงนอนเลยค่ะ มีบ่อน้ำพุร้อนอนเซ็นด้วยนะคะ






ที่อยู่ Aza-arasuna-sawayama, Kitashiobara, Fukushima, 969-2701
ที่โรงแรมนี้มีกิจกรรม ระบายสีตุ๊กตาวัวแดง Akabeko หรือวัวแดงนำโชค หนึ่งในของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงที่สุดของ จ. ฟุคุชิมะ นั่นเอง
เพราะอะไรนะรึ แน่นอนว่าของดีต้องมาพร้อมตำนาน ว่ากันว่านานมาแล้วตั้งแต่สมัยซ่อมแซมวัดโบราณ Enzoji ก็มีเจ้าวัวแดงนี้ปรากฏตัว และช่วยเหลือซ่อมแซมวัดจนเสร็จ (การซ่อมแซมวัดไม่ใช่เรื่องง่ายในสมัยโบราณ เพราะไม่มีเครื่องทุนแรงที่ทันสมัย ใช้แรงงานจากสัตว์และมนุษย์เป็นหลัก) แล้วก็หายจากไป ต่อมาก็มีตำนานต่างๆ เล่าขานกันว่าเจ้าวัวตัวนี้ช่วยขจัดโรคร้ายแรงให้ผู้ที่เป็นเจ้าของ




เอาเป็นว่าใครมีไว้ครอบครองเป็นดีจ้า ชอบลายแบบไหนสีอะไร ก็ดีไซน์กันเองได้เลยค่ะ
(ลายบนใบหน้าและหลังของวัว แสดงถึงความแข็งแกร่งและความเพียร – จงแกร่งและพากเพียรให้เหมือนเจ้าวัวแดงนะคะ)
ราคากิจกรรมนี้ 1530 เยน ต่อคน ได้วัวกลับไปเป็นที่ระลึกด้วยนะ